วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

สถานที่หัวหิน

ถ้าเราขับรถมุ่งหน้าลงภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว ส่วนรวม รถตู้ รถเมล์ หรือว่ารถไฟ ก็จะพบกับชายทะเลฝั่ง อ่าวไทยที่งดงาม เรียงรายไปตั้งแต่ ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี ไปจนถึงบ้านกรูด พวกเธอกำลังยิ้มรับ และรอคอยการมาเยือนของคนที่รักทะเลไม่เลือกชนชั้นวรรณะศาสนาไม่เลือกเพศ และวัย ในระยะทางเพียง 160 กว่ากิโลเมตร กับระยะเวลาเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ ถึงสองชั่วโมงถ้าเริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพฯ ชายทะเลแห่งความสุขสนุกสนานนามว่าชะอำที่คลื่นกำลังชัดสาดอย่างสวยงาม ก็มาอยู่เบื้องหน้าพวกคุณแล้ว ชะอำ มีชายหาดยาวสุดลูกหูลูกตา เป็นชายทะเลที่มี นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมีทั้งที่มาเป็นครอบครัวและมาเดี่ยว ๆ และนักเรียนนักศึกษาก็มาเที่ยวกันมาก เดิมทีนั้นชะอำเป็นเพียงตำบลเล็กๆ ที่ขึ้นอยู่กับอำเภอหนองจอก แต่ภายหลังที่หัวหินมีชื่อเสียง ที่ดินแถบชายทะเลก็ถูกจับจองไว้จนหมด พวกเจ้านายชั้นผู้ใหญ่สมัยนั้นจึงพยายามหาสถานที่พักผ่อนตากอากาศแห่งใหม่ โดยการนำของสมเด็จกรมพระยานราธิปประพันธ์พงศ์ และได้พบว่าหาดชะอำเป็นชายหาดที่สวยงามไม่แพ้ชายหาดหัวหิน ชะอำจึงเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นมา เมื่อมาถึงชะอำแล้ว สิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยคือกิจกรรมบริเวณริมชายหาด เพราะมีตั้งแต่ขี่ม้าชมวิว เจ็ตสกี และบานาน่าโบ๊ต ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของบรรดาหนุ่มสาววัยมันทั้งหลาย ยิ่งในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี ณ บริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ จะมีงานเทศกาลกินหอย ดูนก ตกหมึก ซึ่งนอกจากจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหารทะเลสดๆ ในราคายุติธรรมแล้ว ยังมีบริการพานักท่องเที่ยวนั่งเรือชมนกนานาชนิด และตกหมึกอีกด้วยจากชายหาดชะอำ มุ่งหน้าไปทาง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพียง 8 กิโลเมตร ก็จะถึงพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นที่ตั้งของค่ายพระรามหก และเป็นสถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่า “ พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง” ที่พระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2466 เป็น พระตำหนักแบบไทยผสมยุโรป เป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูง สร้างด้วยไม้สักทองอย่างสวยงามและน่าชมและที่สำคัญอยู่ติดชายทะเลอีกด้วยนับจากพระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง เดินทางต่อไปอีกนิดเดียวก็จะถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมืองที่เลื่องชื่อ มีชายทะเลเป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้มาเยือนเพราะหัวหินได้ชื่อว่าเป็นชายทะเลที่โรแมนติคที่สุด มีชายหาดที่ยาวถึง 5 กิโลเมตร แต่ความสวยงามของชายหาดยามเย็นที่เงียบสงบก็ทำให้คู่รักทุกคู่นึกถึงสถานที่แห่งนี้ที่จัดเป็นที่ฮันนีมูนและ จัดเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงาน   ณ   บริเวณแห่งนี้มีมนต์เสน่ห์ และอีกทั่งยังเป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังไกลกังวล และมีร้านโกลเด้นเพลสขายของที่ระลึกอีกด้วย และยังมีโรงแรมใหญ่น้อยผุดขึ้นมากมายตลอดชายหาด อีกทั้งยังมีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกที่คู่รักหลายคู่ชื่นชอบพอตกตอนเย็นหากไม่ได้แวะไปตลาดฉัตรชัย ก็เหมือนยังมาไม่ถึงหัวหิน เพราะตลาดฉัตรชัยตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ในตัวเมืองหัวหิน ตลาดฉัตรชัยสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2469 ตามพระราชดำริของราชกาลที่ 7 ในวาระเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ วังไกลกังวลเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณนี โดยราชสกุล “ ฉัตรไชย “ พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยากำแพงเพชร อัครโยธิน เป็นหัวหน้าในการจัดสร้าง ปัจจุบันมีสินค้าที่ระลึกและอาหารทะเลทั้งสดทั้งแห้งจำหน่ายมากมาย ส่วนตลาดโต้รุ่งหัวหินก็เป็นสีสันหนึ่งในยามค่ำคืนที่เป็นแหล่งรวมอาหารนานาชนิด ทั้ง อาหารไทย อาหารทะเล โรตี ขนมไทยนานาชนิด ฯลฯ และยังมีร้านขายของฝากที่ระลึกถ้ามองทะเลยามค่ำคืนที่เงียบสงบ และมองหาที่พักหัวหินที่เย็นสบายและราคาไม่แพงมากนักก็ควรแวะไปที่ บ้านพัก จีเฮ้าส์ ซึ่งห่างจากทะเลหัวหินเพียง 1 กิโลเมตร จีเฮ้าส์เป็นห้องพัก แบบสไตล์โมเดิร์น สะอาด และสงบเงียบเหมาะสำหรับการพักผ่อนยามค่ำคืน หลังจากการที่คุณได้เดินทางและท่องเที่ยวมาทั้งวัน และคุณสามารถ ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ และ อาหารจานเด็ดของครัวจีเฮ้าส์ และ เรายังมีบริการอินเตอร์เน็ทไร้สายบริการฟรีทุกห้องพัก และทุก ๆ ส่วนในอาคาร บ้านพัก จีเฮ้าส์ ยังใกล้เขาหิน เหล็ก ไฟ ที่สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเมืองหัวหินยามค่ำคืนที่สวยงาม เช่ารถตู้ บริการรถตู้ รับส่ง เส้นทางกรุงเทพ - หัวหิน เพียง 4,500 บาท รวมน้ำมัน
และขับรถขึ้นไปอีกนิดก็จะถึงวัดห้วยมงคลซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของหลวงปู่ทวดวัดห้วยมงคล และหัวหินยังมีสถานที่พักผ่อนอีกที่ที่ไม่แพ้หาดหัวหินนั้นคือสวนสนประดิพัทธ์ ที่อยู่ในความดูแลของทหารราบ ปราณบุรี เป็นชายทะเลอีกแห่งหนึ่งที่มีผู้นิยมเดินทางไปพักผ่อน จากถนนเพชรเกษมตรงกิโลเมตรที่ 240 เลี้ยวขวาไป 500 เมตรก็ถึงแล้ว ใกล้ๆ กันนั้นยังมีเกาะสิงโต เหมาะสำหรับผู้นิยมตกปลาเป็นชีวิตจิตใจ สามารถเช่าเรือได้ที่หมู่บ้านเขาตะเกียบ ใช้เวลาเดินทางราว 55 นาทีก็ถึง ถัดไปอีกไม่ไกลนักก็จะเจอเขาเต่า ห่างจากหัวหินแค่ 13 กิโลเมตร ซึ่งที่นี่มีหาดทรายน้อยและหาดทรายใหญ่ที่สะอาดและสวยงาม ใกล้ๆ กันมีเกาะขนาดเล็กอยู่ไม่ห่างจากชายฝั่งบนเกาะมีเปลือกหอยชนิดต่างๆ ทับถมกันอยู่ และยังมี พระพุทธรูปใหญ่หันพระพักออกสู่ทะเล
เส้นทางทะเลปลอดภัยไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะปราณบุรียังเป็นทะเลอีกแห่งที่มีที่พักหลากหลายระดับราคาตั้งแต่รากหญ้าทัวร์ไปจนถึงชนชั้นกลางพักได้สบาย จุดที่มีผู้นิยมไปพักก็คือหาดนเรศวร หรือหาดเขากะโหลก ห่างจากปากน้ำ ปราณไปทางทิศใต้ราว 7 กิโลเมตรเท่านั้น ชายหาดของที่นี่ เป็นทรายสีน้ำตาลอ่อนบรรยากาศเงียบสงบ ด้านใต้มีเขาลูกเล็กๆ คล้ายกับกะโหลก สามารถขึ้นไปชมวิวได้
ใกล้กันนั้นในกิ่ง อ.สามร้อยยอด ก็มีทะเลสวยๆ ให้ไปพักผ่อน คือที่หาดอุทยานแห่งชาติติดเขาสามร้อยยอด (หาดนมสาว) ชายหาดเงียบสงบ มีทิวสนทะเล น้ำทะเลตื้นๆ สามารถเล่นน้ำได้ ทิศใต้มีเกาะต่างๆ ที่สามารถนั่งเรือไปเที่ยวเกาะหรือดำน้ำดูปะการังที่เกาะโครำ เกาะนมสาว เกาะระวิง เกาะระวาง
อีกแห่งที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ของวัยรุ่น เป็นทะเลแนวเทรนดี้ที่กำลังมาแรงก็คือ ทะเลแถวหาดบ้านกรูด ใน อ.บางสะพาน จะมีแนวหาดทรายยาว 12 กิโลเมตร ขนานไปกับถนน เลียบชายหาด เดิมนั้นมีต้นมะกรูดขึ้นมากมาย เลยกลายมาเป็น ที่มาของชื่อ แต่เดียวนี้ต้นมะกรูดมีอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก เพราะกลายมาเป็นทิวต้นมะพร้าวไปสะแล้ว ในบริเวณยังมีชุมชนชาวประมงอาศัยอยู่อย่างมากมาย ถ้าไปทางรถยนต์ก็จับทางง่ายขึ้น จากทางหลวงหมายเลข 4 ประมาณกิโลเมตรที่ 382 เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเพชรเกษม บ้านกรูด ข้ามทางรถไฟไป 9 กิโลเมตร ก็จะถึงถนนเลียบหาดบ้านกรูดแล้วใครที่ชื่นชอบการดำน้ำดูแนวปะการังก็ต้องไปที่เกาะรำร่า เกาะหิน ขนาดปานกลาง ห่างจากฝั่งแค่ 300 เมตร มีแนวปะการังอยู่รอบเกาะจากกรุงเทพฯล่องใต้ไปไม่ถึง 400 กิโลเมตร เราก็จะได้เจอกับมนต์เสน่ห์ของท้องทะเลไทยที่สามารถดูด้วยตสัมผัสด้วยใจแถมยังได้ชื่อว่าเป็นชายทะเลที่ปลอดภัยอีกด้วย

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ช้างเอรวัณ

ที่ตั้ง: ถนนสุขุมวิท ขาเข้าจังหวัดสมุทรปราการ
เวลาทำการ: 8 นาฬิกา - 18 นาฬิกา
ค่าบัตรเข้าชม: ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก 50 บาท 50 บาท สำหรับค่าผ่านประตูโดยไม่เข้าชมภายในตัวพิพิธภัณฑ์เลื่อนลงเพื่อดูอัลบั้มภาพและแผนที่ทางอากาศ
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่ ของบริษัท ธนบุรีประกอบยนต์ จำกัด ตำบลบางเมืองใหม่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างจากแรงบันดาลใจ และความคิดของ คุณเล็ก วิริยะพันธ์ ผู้สร้างเมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ และปราสาทสัจธรรม เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อให้เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุ มรดกทางวัฒนธรรมด้านต่าง ๆ และเพื่อสืบสานอนุรักษ์งานศิลป์ไทยให้คงอยู่สืบชั่วลูกชั่วหลานสืบไป ช้างเอราวัณหรือช้างสามเศียร เป็นประติมากรรมลอยตัวด้วยวิธีเคาะมือแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำจากโลหะทองแดง แผ่นเล็กสุดขนาดเท่าฝ่ามือนำมาเรียงต่อกันด้วยความประณีตนับแสนชิ้น ตัวช้างรวมอาคารมีความสูง 43.60 เมตร (หรือสูงขนาดตึก14-17ชั้นโดยประมาณ) อาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนบนของตัวช้าง เฉพาะส่วนหัวมีน้ำหนักประมาณ 100 ตัน ลำตัวช้างหนัก 150 ตัน สูง 29 เมตร กว้าง 12 เมตร และยาว 39 เมตร ตัวช้างออกแบบให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุมีค่า เช่น ภาพวาดสีฝุ่นรูปจักรวาล พระพุทธรูปปางลีลา บริเวณท้องช้างปูด้วยไม้มะเกลือสีออกดำ ส่วนล่างของตัวช้าง เป็นฐาน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก อาคารศาลามีความสูง 14.60 เมตร กระจายน้ำหนักตัวช้างด้วยคานวงแหวนรอบนอกและรอบในบนอาคาร ถ่ายน้ำหนักลงเสาแปดเสาภายนอกและสี่เสาภายในอาคารศาลาการตกแต่งภายในเป็นการ ผสมผสานศิลปะหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้กระจกสีแบบศิลปะตะวันตก, เครื่องเบญจรงค์สลับลวดลายสอดสี, การดุนโลหะบนแผ่นดีบุกของช่างเมืองนครศรีธรรมราช และรูปปั้นโบราณชนิดต่าง ๆ อาทิ คนธรรพ์บรรเลงดนตรี รูปพญานาค ของช่างเมืองเพชร ส่วนชั้นใต้ดินที่เรียกว่า “ชั้นบาดาล” เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการและโบราณวัตถุจำนวนมาก อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปสมัยต่าง ๆ และเครื่องลายครามของจีน ระเบียงรอบนอกตัวอาคารประกอบด้วยซุ้มแปดซุ้ม รอบพิพิธภัณฑ์เป็นอุทยานพรรณไม้ในวรรณคดี และพันธุ์ไม้หายากจากทุกภูมิภาคของประเทศ มีงานประติมากรรมลอยตัวเรื่อง รามเกียรติ์ วางเรียงรายล้อมรอบอาคาร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2371 3135-6 โทรสาร. 0 2380 0304



วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ตลาดบางน้ำผึ่ง

ตลาดน้ำบางผึ้ง เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของชาวบ้านร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และ อบต.บางน้ำผึ้ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสนับสนุนให้ชาวบ้านมีรายได้จากการนำผลผลิตในท้องถิ่นของตนเองมาจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้และก่อให้เกิดการสร้างงานภายในชุมชน ส่งผลทำให้ชุมชนเข้มแข็งมากขึ้นจะมีเฉพาะวันเสาร์และวัดfอาทิตย์ เริ่มเปิดตลาดประมาณแปดโมงเช้าเป็นต้นไปจนถึงเย็น ๆ เป็นตลาดน้ำที่ใกล้กรุงเทพ ซึ่งคุณจะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลองพ่อค้าแม่ค้าหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งถือว่าเป็นตลาดน้ำเพื่อสุขภาพอีกแห่งหนึ่ง เพราะไม่ว่าใครได้มาเที่ยวที่ตลาดน้ำบางผึ้ง นอกจากจะได้สัมผัสวิธีชีวิตริมน้ำของชาวพระประแดงแล้ว ก็ยังได้สัมผัสกับกิจกรรมทั้งในเรื่องของสุขภาพกาย และสุขภาพใจอีกด้วย เพราะว่าพ่อค้า แม่ค้า ที่นี่นอกจากจะเอาใจใส่เรื่องของคุณภาพของสินค้าแล้ว ก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ภูมิปัญญาไทยๆ อย่างอาทิ สมุนไพรลงไปในสินค้า เมื่อบวกกับมิตรจิต มิตรใจ โอมอ้อมอารีของคนในชุมชนตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ก็ถือเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของตลาดน้ำแห่งนี้